วันพฤหัสบดีที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2553

Eco Car หรือ รถยนต์ขนาดเล็กประหยัดพลังงาน














- ในสภาวะที่ราคาน้ำมัน มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลไทย ได้เล็งเห็นปัญหานี้ จึงได้กำหนดโครงการ Eco Car ขึ้น เมื่อหลายปีก่อน โครงการ Eco Car หรือ รถยนต์ขนาดเล็กประหยัดพลังงานนี้ เป็นโครงการที่จะทำให้ ประเทศไทย มีรถยนต์ที่ผลิตในประเทศ มีขนาดที่กะทัดรัด โนโลยีสูง ทันสมัย ประหยัดพลังงาน รักษาสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง ปลอดภัย ได้มาตรฐาน

- ราคารถยนต์ Eco Car จะลดลงจาก รถปกติประมาณ 1 แสนบาทต่อคัน เพื่อจูงใจผู้บริโภค ทั้งนี้เนื่องจาก Eco Car ได้สิทธิประโยชน์ หลายอย่าง เช่น ปรับลดภาษีสรรพสามิตจาก 30% เหลือ 17% โดยมีผู้ผลิตรถยนต์ 6 รายที่ได้รับสิทธิการส่งเสริมจาก บีโอไอ ให้ผลิต Eco Carได้แก่ ฮอนด้า โตโยต้า นิสสัน มิตซูบิชิ ซูซูกิ และทาทา คาดว่าเมื่อเริ่มผลิต Eco Car ได้ตามแผน จะมีกำลังการผลิต Eco Car รวม 6.85 แสนคันต่อปี มูลค่าส่งออกอยู่ที่ 1.13 แสนล้านบาทต่อปี ใช้ชิ้นส่วนในประเทศ 9.4 หมื่นล้านบาท และจ้างงานใหม่เพิ่ม 1.1 หมื่นคน โดย นิสสัน มีความพร้อมมากที่สุด คาดว่าจะเริ่มเปิดจอง และ วางจำหน่าย Eco Car เดือน มีนาคม 2553 นี้เป็นต้นไป

- 5 มิ.ย 2550 ที่ ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติหลักการ สำหรับรถยนต์ Eco Car โดยมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

1. ขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 1,300 ซีซี สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน หรือไม่เกิน 1,400 ซีซี สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล
2. อัตราการใช้น้ำมัน ไม่เกิน 5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร (หรือ 20 กม.ต่อ 1 ลิตร)
3. ปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ไม่เกิน 1.0 กรัมต่อ 1 กม.
4. ปล่อยก๊าซไฮโดรคาร์บอน ไม่เกิน 0.1 กรัมต่อ 1 กม.
5. ความปลอดภัยจะต้องได้มาตรฐาน UNECE Reg.94 Rev.0 กรณีการชนด้านหน้า และ UNECE Reg.95 Rev.0 จากการชนด้านข้างของตัวรถ

บริษัท ผู้ผลิต Eco Car ต้องสามารถผลิตให้ได้ 1 แสนคันภายในปีที่ 5 ลงทุนในการผลิตอย่างน้อย 5 พันล้านบาท จึงจะได้รับสิทธิประโยชน์จากภาครัฐ